ชื่อย่อหุ้น : ASK
ราคาล่าสุด : 11.10 บาท
เปลี่ยนแปลง :  +0.30 2.78%
ปริมาณซื้อขาย (หุ้น) :      489,436
วันก่อนหน้า
10.80
ราคาเปิด
10.80
ช่วงราคาใน 52 สัปดาห์
9.60
ช่วงราคาใน 52 สัปดาห์
21.20
ปรับปรุงเมื่อ: 03 ธันวาคม 2567 16:36
Refresh for Real-time Quote
นักลงทุนสัมพันธ์ > ข้อมูลบริษัท > สาส์นจากประธานกรรมการ
    สาส์นจากประธานกรรมการ

คณะกรรมการมีความยินดีในการนำเสนอรายงานประจำปี และงบการเงินที่ตรวจสอบแล้วของบริษัทและบริษัทย่อย สำหรับรอบปีบัญชีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566

ปี 2566 ถือเป็นอีกปีที่ท้าทาย แม้ว่าผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จะเบาบางลง และได้กลับมาเปิดประเทศเปิดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยก็ยังไม่ได้กลับเข้าสู่ระดับก่อนโควิด เนื่องจากงบประมาณภาครัฐปี 2567 ที่มีความล่าช้า และระดับหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับที่สูง รวมทั้งเศรษฐกิจโลกยังคงได้รับผลกระทบจากความเข้มงวดทางการเงินของธนาคารกลางรายใหญ่ อุปสงค์ของประเทศจีนที่อ่อนแอ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อ

สำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์โดยรวม ยอดขายรถยนต์ใหม่ในประเทศโดยรวมหดตัวลงเนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ต่ำ ทำให้ยอดขายรถยนต์ในปี 2566 อยู่ที่ 775,780 คัน ลดลงร้อยละ 8.7 จาก 849,388 คันในปี 2565 โดยมียอดขายรถบรรทุกในประเทศอยู่ที่ 27,682 คัน ลดลงร้อยละ 11.4 จาก 31,230 คันในปี 2565 เนื่องจากความต้องการรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวลง จากภาคการส่งออกและธุรกิจโลจิสติกส์

คณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 5 ครั้งตลอดปี 2566 จากร้อยละ 1.25 เป็นร้อยละ 2.50 เพื่อให้การดำเนินนโยบายการเงินเป็นปกติอย่างค่อยเป็นค่อยไปและวัดผลได้ สู่ระดับที่สอดคล้องกับการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ผลการดำเนินงานในปี 2566

แม้จะมีความยากลำบากต่างๆ ในช่วงปี 2566 แต่บริษัทมีสินทรัพย์รวม ณ สิ้นปี 2566 อยู่ที่ 77,529 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.1 จากปี 2565

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 หนี้สินรวมมีจำนวน 66,870 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.5 จากปี 2565 เพื่อรองรับการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อ ส่วนของผู้ถือหุ้นมีจำนวน 10,659 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9 จากปี 2565 เป็นผลจากกำไรของบริษัท บริษัทมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 2,639 ล้านบาท และมีกำไรสะสม 5,179 ล้านบาท

จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของพอร์ตสินเชื่อในปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 6,499 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.6 จากปี 2565 ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานรวม 3,060 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.0 จากปี 2565 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้กำไรรวมปี 2566 อยู่ที่ 1,219 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 19.4 จาก 1,512 ล้านบาทในปี 2565 โดยพอร์ตสินเชื่อรวมในปี 2566 มีจำนวน 75,257 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.3 จากปี 2565 สาเหตุหลักมาจากการเติบโตของสินเชื่อเช่าซื้อ

จากการที่ภาวะเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวส่งผลให้คุณภาพสินทรัพย์โดยรวมของบริษัทลดลง อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ หรือ NPLs ณ สิ้นปี 2566 อยู่ที่ร้อยละ 4.70 ของพอร์ตสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 3.47 ในปี 2565 โดยอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ อยู่ที่ร้อยละ 62.32 ณ สิ้นปี 2566

ในปี 2566 บริษัทยังคงรักษากลยุทธ์ในการเป็นผู้นำตลาดรถบรรทุกรายใหม่

การกำกับดูแลกิจการและความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร

คณะกรรมการบริษัทมีเป้าหมายที่จะเพิ่มประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และความโปร่งใส ในขณะเดียวกันก็ยังคงส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างแน่วแน่ ดังนั้น คณะกรรมการจึงมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดี ความรับผิดชอบต่อสังคม นโยบายต่อต้านการทุจริต และนโยบายจริยธรรมทางธุรกิจ

คณะกรรมการบริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะรักษามาตรฐานการกำกับดูแลกิจการที่เข้มงวด ความรับผิดชอบต่อสังคม มาตรการต่อต้านการทุจริต และนโยบายจริยธรรมทางธุรกิจ ความพยายามเหล่านี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และความโปร่งใส ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างแน่วแน่

ด้วยความทุ่มเทในการรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม บริษัทจึงให้สินเชื่อโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินที่ยั่งยืน

นอกจากนี้ บริษัทยังได้มีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสังคมในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งการบริจาคเงินให้กับโรงพยาบาล บริจาคเงินให้กับศูนย์รักษาโรคปากแหว่งเพดานโหว่ การเข้าร่วมกิจกรรม “จากมือสู่หัวใจ” เย็บด้วยมือและส่งด้วยใจให้กับผู้ป่วยมะเร็งเต้านม โครงการมอบทุนการศึกษาแก่นักศึกษา และการร่วมบริจาคโลหิตที่สภากาชาดไทย นอกจากนี้บริษัทยังสนับสนุนชุมชนด้วยการอาสาทาสีโรงเรียนที่จังหวัดพิษณุโลก และการปลูกป่าชายเลนที่จังหวัดสมุทรสาคร และการปล่อยสัตว์น้ำกลับสู่ธรรมชาติและการทำความสะอาดพื้นที่บริเวณโดยรอบหาดแสงจันทร์ จังหวัดระยอง

ในปี 2566 บริษัทได้รับคะแนน 98 คะแนนจากโครงการประเมิน AGM ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งจัดโดย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ร่วมกับสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย นอกจากนี้บริษัทยังได้รับการยกระดับสถานะเป็น “ดีเลิศ” ในรายงานการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย ประจำปี 2566 โดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับการรับรองการต่ออายุสมาชิกภาพจากแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (CAC) ครั้งที่ 2 ซึ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นในการต่อต้านการทุจริตในภาคเอกชน

แนวโน้มและกลยุทธ์ทางธุรกิจในปี 2567

คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติกลยุทธ์ทางธุรกิจ วัตถุประสงค์ และนโยบายของบริษัท โดยมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจตามหลักความยั่งยืนและการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซึ่งรวมถึงการสร้างความมั่นใจว่าบริษัทมีการบริหารความเสี่ยงและมาตรการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ

บริษัทคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในปี 2567 จะฟื้นตัวจากปีก่อน โดยคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของไทยจะขยายตัวประมาณร้อยละ 2.5-3.0 จากปีที่ผ่านมา โดยการเติบโตดังกล่าวได้รับแรงสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชนและอุปสงค์ในประเทศที่เพิ่มขึ้น และจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้การลงทุนภาคเอกชนอาจมีการขยายตัวโดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลัง โดยได้รับแรงหนุนจากโครงการโครงสร้างพื้นฐานและงบประมาณภาครัฐ อย่างไรก็ตาม การเติบโตทางเศรษฐกิจอาจมีอุปสรรคจากปัจจัยต่างๆ เช่น ระดับหนี้ครัวเรือนที่สูง ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และระดับราคาพลังงานที่ยังคงสูง

สำหรับยอดขายรถยนต์ใหม่ในประเทศปี 2567 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 800,000 คัน หรือเติบโตร้อยละ 3.0 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยภาคเอกชนจะขับเคลื่อนความต้องการรถยนต์เพื่อการพาณิชย์

ในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าที่จะขยายธุรกิจไปพร้อมกับรักษามาตรการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์

ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นในแนวทางปฏิบัติในการให้กู้ยืมอย่างมีความรับผิดชอบ บริษัทจะนำเสนอบริการทางการเงินที่ออกแบบมาเพื่อรองรับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การติดตั้งอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ นอกจากนี้ บริษัทจะรวมปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ไว้ในกระบวนการประเมินเครดิต เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและสนับสนุนความมุ่งมั่นของบริษัท ในการปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อมจากผลกระทบด้านลบที่รุนแรง

ในนามของคณะกรรมการ ข้าพเจ้าขอขอบคุณผู้ถือหุ้น ลูกค้า และพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทสำหรับความไว้วางใจและการสนับสนุนโดยไม่เปลี่ยนแปลง บริษัทรู้สึกซาบซึ้งอย่างยิ่งต่อความเชื่อมั่นที่ทุกท่านมอบให้กับบริษัท ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเติบโตและความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของบริษัท

นอกจากนี้ ข้าพเจ้าขอแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่อคณะผู้บริหารและพนักงานสำหรับความทุ่มเทและความมุ่งมั่นอันยอดเยี่ยมที่มีต่อบริษัท โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ท้าทาย ความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่และการทำงานหนักของทุกคน เป็นสิ่งล้ำค่าในการฝ่าฟันความยากลำบากและทำให้แน่ใจว่าบริษัทสามารถฟื้นการดำเนินงานได้

ด้วยความพยายามร่วมกันของผู้มีส่วนได้เสียและความทุ่มเทของผู้บริหารและพนักงานทุกคน บริษัทหวังว่าจะบรรลุเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้นและสร้างมูลค่าที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน ขอบคุณ



ในนามของคณะกรรมการบริษัท

นายหยาง ซือ ถิง
ประธานกรรมการ