2527
จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทจำกัด
ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก
10 ล้านบาท
โดยการออกหุ้นสามัญจำนวน
0.1 ล้านหุ้น
มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ
100 บาท
และเรียกชำระเต็มมูลค่าแล้ว
2531
เพิ่มทุนโดยการออกหุ้นสามัญจำนวน
0.4 ล้านหุ้น
มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ
100 บาท
และเรียกชำระมูลค่า
20 ล้านบาท
ทำให้ทุนจดทะเบียน
เท่ากับ 50
ล้านบาท
โดยเป็นทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้วเท่ากับ
30 ล้านบาท
2534
เปิดสาขาแห่งแรกที่จังหวัดระยองเพื่อขยายฐานการดำเนินธุรกิจ
โดยให้บริการลูกค้าทั้งในจังหวัดระยองและจังหวัดใกล้เคียง
2535
• |
เรียกชำระมูลค่าหุ้นอีก
20 ล้านบาท
ทำให้ทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้วเท่ากับ
50 ล้านบาท |
• |
บริษัท
กรุงเทพแกรนด์แปซิฟิคลีส
จำกัด (มหาชน)
ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี
2532
โดยมีผู้ถือหุ้นหลัก
คือ
กลุ่มธนาคารกรุงเทพ
จำกัด (มหาชน)
และกลุ่มไชลีสจากสาธารณรัฐไต้หวัน
ดำเนินธุรกิจการให้สินเชื่อลีสซิ่ง
สินเชื่อแฟคตอริ่ง
และสินเชื่อเช่าซื้อ
ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท
ร้อยละ 99.99 |
2536
เพิ่มทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้วจากเดิม
50 ล้านบาทเป็น 60
ล้านบาท
โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มจำนวน
0.1 ล้านหุ้น
มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ
100 บาท
2537
ขยายสาขาไปยังจังหวัดสมุทรสาคร
เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าในจังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดใกล้เคียง
2538
เพิ่มทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้วจากเดิม
60 ล้านบาทเป็น 160
ล้านบาท
โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มจำนวน
1 ล้านหุ้น
มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ
100 บาท
เพื่อนำเงินมาใช้ในการขยายการให้บริการสินเชื่อและพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานและบริการ
2541
เริ่มให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใช้แล้ว
2542
เพิ่มทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้วจากเดิม
160 ล้านบาทเป็น 460
ล้านบาท
เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ
โดยการออกหุ้นสามัญ
จำนวน 3 ล้านหุ้น
มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ
100 บาท
2543
ร่วมก่อตั้งสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย
(Thai Hire Purchase Association)
เมื่อวันที่ 1
มิถุนายน 2543
2545
• |
เริ่มให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลแก่ลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท
โดยเสนอบริการเฉพาะกลุ่มลูกค้าเดิมที่มีประวัติการชำระดี
|
• |
ได้รับประกาศเกียรติคุณจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
สำนักนายกรัฐมนตรี
ให้เป็นผู้ประกอบธุรกิจที่รักษาสิทธิผู้บริโภคด้านสัญญาโดยใช้สัญญาที่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค
|
2546
• |
แปลงสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด
เมื่อวันที่ 27
พฤศจิกายน 2546 |
• |
เริ่มให้บริการสินเชื่อแก่ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์
|
2547
• |
ลดทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้วจำนวน
112 ล้านบาท
เพื่อล้างขาดทุนสะสม
ทำให้ทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้วมีจำนวน
348 ล้านบาท |
• |
เพิ่มทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้วจำนวน
80 ล้านบาท
ทำให้ทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้วมีจำนวน
428 ล้านบาท |
• |
เปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้จากหุ้นละ
100 บาท
เป็นราคาหุ้นละ
5 บาท
ทำให้บริษัทมีหุ้นสามัญที่จำหน่ายแล้วทั้งสิ้น
85.60 ล้านหุ้น
รวมเป็นทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้ว
428 ล้านบาท |
• |
ปรับโครงสร้างการถือหุ้นทั้งหมดเมื่อวันที่
20 พฤษภาคม 2547
โดยบริษัทเข้าถือหุ้นร้อยละ
99.99 ในบริษัท
กรุงเทพ
แกรนด์แปซิฟิคลีส
จำกัด (มหาชน)
ทำให้บริษัท
กรุงเทพแกรนด์แปซิฟิคลีส
จำกัด (มหาชน)
กลายเป็นบริษัทย่อยของบริษัท
|
• |
ขยายสาขาไปยังจังหวัดพิษณุโลก
เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าในจังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดใกล้เคียง
|
• |
เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก
147 ล้านบาท
ทำให้มีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น
575 ล้านบาท
ทุนชำระแล้ว 428
ล้านบาท |
• |
วันที่ 24
พฤศจิกายน 2547
บริษัทได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ในการเสนอขายหุ้นสามัญแก่กรรมการ
ผู้บริหาร
และพนักงาน
จำนวน 6.4
ล้านหุ้น
ในราคาหุ้นละ
5.50
บาทและได้มีการเสนอขายหุ้นสามัญดังกล่าว
ในวันที่ 26-30
พฤศจิกายน 2547
ซึ่งทำให้บริษัทมีทุนชำระแล้วเพิ่มขึ้นเป็น
460 ล้านบาท |
2548
• |
บริษัทมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น
โดยบริษัท
แกรนด์
แปซิฟิค
เคมีคอล
(ประเทศไทย)
จำกัด
ซึ่งถือหุ้นของบริษัทจำนวน
33.80 ล้านหุ้น
(คิดเป็นร้อยละ
36.74
ของทุนชำระแล้ว
ณ 14 มิถุนายน 2548)
ขายหุ้นทั้งหมดของบริษัทให้แก่บริษัท
เอเค
เอ็นเตอร์ไพรส์
(ประเทศไทย)
จำกัด
ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มคูด้วยกัน
|
• |
บริษัทได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ในการเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไป
จำนวน 23
ล้านหุ้น
ในราคา 8.90 บาท
และได้เสนอขายหุ้นสามัญดังกล่าว
ในวันที่ 16-18
สิงหาคม 2548
ซึ่งทำให้บริษัทมีทุนชำระแล้วเพิ่มขึ้นจาก
460 ล้านบาทเป็น 575
ล้านบาท
และในวันที่ 25
สิงหาคม 2548
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรับหุ้นสามัญของบริษัทเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน
และทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันแรก
|
2549
บริษัทได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นให้ออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท
และจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น
(Rights Offering)
โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน
115 ล้านหุ้น
มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ
5 บาท
และให้สิทธิในการจองซื้อ
1
หุ้นสามัญเดิมต่อ
1 หุ้นสามัญใหม่ (1:1)
ในราคาเสนอขายต่อหุ้น
5.50 บาท
และเปลี่ยนแปลงทุนจดทะเบียนชำระแล้วเป็น
1,150 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 3
ตุลาคม 2549
และนำหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในวันที่
10 ตุลาคม 2549
2553
บริษัทได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ในการออกและเสนอขายหุ้นกู้อายุ
3 ปี
ให้กับผู้ลงทุนสถาบัน
และผู้ลงทุนรายใหญ่
จำนวน 500,000 หน่วย
มูลค่าที่ตราไว้ราคาหน่วยละ
(Par Value) 1,000 บาท
เสนอขายในราคาหน่วยละ
1,000 บาท
มูลค่าการเสนอขายรวมทั้งสิ้นจำนวน
500 ล้านบาท
โดยบริษัทได้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าวในวันที่
14 พฤษภาคม 2553